อึดอัด
อึดอัด อึดอัด !!! คำนี้ แม่งวิ่งวนในหัวผมตั้งแต่ บอลยูโรแล้ว ทำไม กองหน้าเบอร์ 1 ทีมเราและทีมชาติอังกฤษอย่าง แฮรี่ เคน ยังยิงประตูคู่แข่งไม่ได้เลย ลูกสุดท้ายที่ยิงได้
ก็คือนัดที่เราออกไปเสมอกับเชลซี 2-2 ประตู แล้วทำให้เราหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีค
ทั้งที่เราออกไปนำก่อน 2-0 ประตูแท้ๆ หลังจากนัดนั้นเคนก็ดูเหมือนจะช๊อตเอาดื้อๆ ไม่รู้ว่าผลทางด้านอารมณ์ของเกมที่กดดันขนาดนั้น แล้วผลที่ออกมาไม่เป็นดั่งใจ อาจจะทำให้หมดไฟหมดความกระหายในการทำประตูรึป่าว ?
ด้วยตำแหน่งดาวซัลโว
ฤดูกาลที่แล้ว ทำให้แฟนๆต่างก็คาดหวังว่าเคนจะกลับมาท๊อปฟอร์มให้ทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลยูโร2016
แต่แล้วก็ไม่เลย แฮรี่ เคน รีดฟอร์มการทำประตูในแบบที่ควรจะเป็นไม่ได้
อาจจะเพราะสาเหตุและองค์ประกอบหลายๆอย่างในทีมชาติที่คงจะไม่สอดคล้องกับรูปแบบการเล่นของเคน เช่นเอา แฮรี่ เคนของพวกเราไปเตะมุม !! ปู่รอย แม่ง เอาเงี่ยงสมอง ส่วนไหน
คิดฟระ เสียของชิพเป๋ง จนสุดท้ายทีมชาติอังกฤษตกรอบฟุตบอลยูโร2016
เคนทำไม่ได้เลยซักประตู แฟนไก่เข้าเส้นเลือดแบบผมก็ได้แต่ปลอบใจว่า
ฤดูกาลใหม่ก่อนเถอะมึง !! เคน กลับมาแน่
เหมือนยิ่งนานความคาดหวังก็ยิ่งเพิ่ม “
เคนต้องยิงสิ เคนต้องยิงได้ “ ผมเชื่อว่าทุกๆท่าน คงจะคิดเหมือนกัน ฤดูกาลที่แล้ว กว่า
บักเคน ของเราจะเริ่มยิงได้ก็ปาเข้าไปเดือนกันยายน แต่จบด้วยตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีคนะจ๊ะ
แล้วปีนี้ล่ะ ไอ่ผมก็ลุ้นกันเยี่ยวแทบเล็ด ขอให้เคนยิงได้ตั้งแต่นัดแรกเลยละกัน
แต่สุดท้ายประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย ตลอดเดือนสิงหาคม แฮรี่ เคน ของพวกเรา แม่ง ยิงไม่ได้ ! เออ
เอาเข้าไป กองหน้าเบอร์ 1 ทีมอื่น ขายิงกันหมดแล้ว ทั้ง สลาตัน อิบราฮิโมวิช , เซอร์คิโอ
เอวเกวโร่ กุน , ดิเอโก้ คอสต้า , เจมี วาร์ดี้ รวมไปถึง โรแบร์โต้ เฟร์มิโน่
ก็ยิงกันไปคนละลูกสองลูก ทำให้แรงกดดันมันเพิ่มขึ้นไปเป็นเท่าตัว
แต่แล้วก็เหมือนตามคาดเดือนสิงหาคมยิงไม่ได้ใช่มั้ย? ได้เลย !! กันยายนต้องยิงได้สิ ว่าแล้ว ก็จัดประตูปิดท้ายซะเลย
ทำให้นัดล่าสุดเราออกไปชนะสโต๊ค ซิตี้ คาบ้านเขา ไป 0-4 ประตู
อาจจะยิงแบบไม่ได้เหนือชั้นหรือไม่ได้สวยงามอะไรมากมาย แต่ก็เอาวะ เข้าประตูเป็นพอ
อิอิ
รูปเกมครึ่งแรก ดูแล้วอึดอัดมาก
เจ้าบ้านทำเสียวตลอด จนผมต้องซิ้ดปากแบบหนัง AV ญี่ปุ่น
ในช่วงเวลาก่อนจะถึงนาทีที่ 41 หนูซน ฮึง มิน แหย่ขา สะกิดลูกจ่ายของ อีริคเซ่น
ที่เพิ่งต่อสัญญาระยะยาวกับทีมเรา เปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย ทีมเรานำ 1-0 ก็เฮลั่นบ้านสิครับ
รอไร มันต้องงี้ดิ 555 ครึ่งหลังมา เหมือนหนังคนละม้วนทีมเราเล่นดีขึ้นจังหวะเข้าทำน่ากลัวขึ้นมาก
โดยเฉพาะลูกที่สอง ซน ยิงได้สวย งามจริงๆ แนวรับสโต๊คก็ดูจะประสานงานกันไม่ดี
อาจจะเพราะไม่มีผู้จัดการทีมอย่าง มาร์ค ฮิวจ์ มายืนคุมข้างสนาม เพราะโดนไปแดงโนไล่ออกไปชมเกมบนอัฒจันทร์
เลยเป็นผลให้ทีมเราเล่นได้แบบไม่กดดัน จนเป็นประตูที่ 3 ของ เดเล่ อัลลี่ และประตูเบิกร่องที่แฟนๆสาวกไก่
รอกันจนร่องแฉะ ของ แฮรี่ เคน ก็มาเสียที และเป็นประตูที่ 50 ของเจ้าตัวด้วย
โดยลงเล่น 87 นัด ยิงได้ 50 ประตู หลังจบเกม เคนให้สัมภาษณ์ว่า “ ผมจะทำงานหนักต่อไปและยิงประตูให้
สเปอร์ส มากกว่านี้ 50 ประตูที่ยิงได้มันคือความสำเร็จจริงๆ แต่อีก 50 ประตูต่อไป
ผมหวังว่าผมจะยิงครบ 100 ประตูให้เร็วที่สุด “ ปากหวานน่าดูดมาก ลูกพ่อ
ประตูแรกได้มาแล้ว อะไรๆมันก็คงจะดีขึ้น
ความกดดันทั้งหลายคงจะหายไป ความมั่นใจ ความกระหายในการทำประตู ความเป็นเพชฌฆาตในร่างบักเคนฟื้นคืนมาละ
เคนในตอนนี้คงไม่ใช่อีหมวย ขาว อึ๋ม ที่ไม่มีพิษสงอะไรอีกต่อไปแล้ว กองหลังทีมอื่นต้องเกรงกลัวทีมเรามากขึ้น
ตอนนี้ผมคงต้องตะโกนประกาศซะแล้วว่า “ เคน ไม่ หมวย “ แล้วนะพวกมึง !!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น